ชื่อภาษาไทย : นกแต้วแร้วท้องดำ
ชื่อภาษาอังกฤษ : Gurney's Pitta
นกแต้วแล้วท้องดำ
เป็นหนึ่งในนกแต้วแล้ว12ชนิดที่พบในประเทศไทย รูปร่างอ้วนป้อม
คอสั้น หัวโต หางสั้น ลำตัวยาว 22 เซนติเมตร ตัวผู้หัวสีดำ
กระหม่อมและท้ายทอยสีน้ำเงินเหลือบฟ้า หางสีน้ำเงินอมเขียว
ท้องสีเหลืองสดมีริ้วสีดำบาง ๆ พาดสลับตลอดช่วงท้อง ใต้ท้องแต้มสีดำสมชื่อ
ตัวเมียกระหม่อมสีเหลืองอ่อน มีแถบดำผ่านใต้ตาลงไปถึงแก้ม ท้องสีขาว
มีแถบสีน้ำตาลขวางจากอกลงไปถึงก้น
นกแต้วแล้วท้องดำอาศัยอยู่ในป่าดิบที่ราบต่ำ
ซึ่งมีระดับความสูงไม่เกิน 200 เมตรจากระดับน้ำทะเล มักพบตามที่ราบ
ใกล้ร่องน้ำหรือลำธารที่ชื้นแฉะ ไม่ชอบอยู่บริเวณที่มีไม้พื้นล่างขึ้นรกทึบ
เขตกระจายพันธุ์อยู่ในทางใต้ของพม่าที่ติดต่อกับประเทศไทยเท่านั้น
ในประเทศไทยพบเพียงแห่งเดียวที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม
(เขานอจู้จี้) จังหวัดกระบี่เพียงแห่งเดียว
นกแต้วแล้วหากินด้วยการกระโดดหาแมลงบนพื้นดินกินหรืออาจขุดไส้เดือนขึ้นมากิน
บางครั้งอาจจับกบ และสัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็กด้วย โดยเฉพาะในช่วงมีลูกอ่อน
นกตัวผู้จะร้องหาคู่ด้วยเสียง
2 พยางค์ เร็ว ๆ ว่า “ท-รับ” แต่ถ้าตกใจนกร้องเสียง “แต้ว แต้ว” เว้นช่วงแต่ละพยางค์ประมาณ 7-8 วินาที และอาจร้องนานเป็นชั่วโมง
ส่วนเสียงที่ใช้ในการสื่อสารกันระยะใกล้จะใช้เสียงนุ่มดัง "ฮุ ฮุ"
ฤดูผสมพันธุ์อยู่ในช่วงเดือนมีนาคม-มิถุนายน
ออกไข่คราวละ 3-4 ฟอง
ปัจจุบันสถานภาพของนกแต้วแล้วท้องดำในประเทศไทยน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง
ในปี พ.ศ. 2529 เคยพบ 44-45 คู่ แต่ในปี พ.ศ. 2540 เหลือเพียง 9 คู่เท่านั้น
ปัจจุบันคาดว่ามีอยู่ประมาณ 13-20 คู่เท่านั้น เป็นหนึ่งในสัตว์สงวน 15 ชนิดของไทย ตาม
พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ไอยูซีเอ็นเคยประเมินสถานภาพไว้ว่า
ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง (CE) แต่จากการที่การสำรวจพบประชากรของนกชนิดนี้ในพม่ามากขึ้น
ในปี 2551 จึงปรับสถานภาพให้ดีขึ้นเล็กน้อยเป็น ใกล้สูญพันธุ์ (EN)
ที่มา : https://th.wikipedia.org
http://www.verdantplanet.org