ความเป็นมาของสัตว์ป่าสงวน

ในอดีตที่ผ่านมาทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทยอุดมสมบูรณ์พื้นที่ป่ายังคงปกคลุมทั่ว สัตว์ป่ามีอยู่อย่างชุกชุมมีการใช้ทรัพยากรอย่างฟุ่มเฟือยไม่รู้คุณค่า โดยเฉพาะสัตว์ป่า มีการล่าเป็นอาหารล่าเพื่อเป็นกีฬาและ ล่าเพื่อการค้าทั้งในประเทศและส่งออกต่างประเทศโดยปราศจากกฎหมายใดๆคุ้มครอง ต่อมาเมื่อประชากรเพิ่มขึ้น การบุกรุกป่าเพื่อทำกินมีมากขึ้น สัตว์ป่าถูกคุกคามและลดจำนวนลงอย่างรวดเร็วกว่าที่เคยเป็นมาในรอบหลายสิบปีจนบางชนิดได้สูญพันธุ์ไปจากเมืองไทย สูญพันธุ์ไปจากโลกสัตว์ชนิดนั้นคือ สมัน ซึ่งเป็น กวางที่มีเขาสวยงามที่สุดชนิดหนึ่ง ดังนั้นปี พ.ศ. 2503 ภาครัฐโดยการ ร่วมมือขององค์กรอนุรักษ์ต่างๆได้ตระหนักถึงคุณค่าของสัตว์ป่าผลักดันให้เกิดกฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่าฉบับแรกของประเทศไทย คือ พระราชบัญญัติสงวน และ คุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2503 ซึ่งในกฎหมายฉบับนี้ได้กำหนดสัตว์ป่าที่หายากเป็น สัตว์ป่าสงวน" จำนวน 9 ชนิด คือ แรด กระซู่ กูปรีหรือ โคไพร ควายป่า ละองหรือละมั่ง " สมันหรือเนื้อสมัน ทรายหรือเนื้อทรายหรือตามะแน เลียงผาหรือเยืองหรือกูรำ หรือ โครำ และ กวางผา เมื่อเวลาผ่านไปได้มีการปรับปรุงกฎหมายให้เกิดความทันสมัย เหมาะสมกับสถานการณ์สัตวว์ป่าในประเทศไทยและสอดคล้องกับความร่วมมือด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรระดับนานาชาติได้มีการตรา พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535ซึ่งมีผลบังคับใช้.มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งในพระราชบัญญัติได้แก้ไขเพิ่มเติม รายชื่อสัตว์ป่าสงวนด้วยพิจารณาเห็นว่าประชากรสัตว์ป่าหลายชนิดเพิ่มขึ้นจากการเพาะขยายพันธุ์ เช่น เนื้อทราย และประชากรสัตว์ป่า อีกหลาย ชนิดลดลงอย่างน่าวิตก เช่น นกแต้วแล้วท้องดำ หรือสัตว์ป่าบางชนิดไม่มีรายงานการพบเห็นมาเป็นระยะเวลานาน เช่น นกกระเรียน แมวลายหินอ่อน จึงได้ถอดชื่อเนื้อทรายออกจากบัญชีสัตว์ป่าสงวน และเพิ่มนกเจ้าฟ้าหิงสิริธร นกแต้วแล้วท้องดำ นกกระเรียน แมวลายหินอ่อน สมเสร็จ เก้งหม้อ และ พะยูน หรือหมูน้ำ รวมเป็นสัตว์ป่าสงวน 15 ชนิด กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตระหนักเป็นอย่างยิ่งว่าการเผยแพร่ข้อมูลด้านวิชาการที่ถูกต้อง และ สมบูรณ์ให้แก่หน่วยงานทั้ง ภาครัฐและภาคเอกชนนักศึกษานักเรียน และประชาชนทั่วไป ได้ทราบถึง ความงดงามความมีคุณค่า เกร็ดความรู้ต่างๆของสัตว์ป่าสงวนแต่ละชนิดรวมทั้งปัจจัยคุกคามจนทำให้สัตว์ป่าเหล่านั้นอยู่ในสภาวะวิกฤติประชากรเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์จะช่วยให้ทุกคนหันมาช่วยกันคุ้มครองป้องกันภัยให้สัตว์ป่าสงวนอยู่รอดสืบไป

                           


ที่มา : http://www.dnp.go.th